เสริมสร้างความเชื่อมั่นและความเชื่อผิดๆ

คุณจะได้มั่นใจในวัคซีนป้องกันโควิด-19

คนส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกากำลังวางแผนที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่บางคนอาจต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติโดยสิ้นเชิง เราทุกคนต่างต้องการความเชื่อมั่นต่อการตัดสินใจใดๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรา

เพื่อสร้างความมั่นใจ เราต้องการข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เรามาช่วยเพื่อนและครอบครัวของคุณเพื่อแยกแยะระหว่างข่าวลือกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19

คุณเองก็สามารถช่วยคนเหล่านั้นเพิ่มความมั่นใจกับการตัดสินใจของพวกเขาเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน คุณสามารถทำได้โดย:

  • ขอเวลารับฟังข้อกังวลจากเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวของคุณ เข้าไปดูที่คู่มือการพูดคุยเกี่ยวกับวัคซีน (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น) เพื่อดูเคล็ดลับในการพูดคุยเรื่องวัคซีน
  • ตอบคำถามต่างๆหากคุณไม่ทราบคำตอบ คุณสามารถแนะนำได้ว่าพวกเขาพูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ
  • เมื่อคุณตัดสินใจเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน แบ่งปันเหตุผลว่าเหตุใดคุณถึงเข้ารับวัคซีน เรื่องราวส่วนตัวของคุณสามารถสร้างอิทธิพลอย่างมากครอบครัวและชุมชนของคุณ

คุณมีความสามารถในการโน้มน้าวคนรอบข้างด้วยสิ่งที่คุณพูดและสิ่งที่คุณทำ ดูเคล็ดลับเหล่านี้เกี่ยวกับวิธีพูดคุยเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 กับเพื่อนและครอบครัว (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)

ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัคซีนที่ด้านล่างและแบ่งปันกับคนที่คุณรู้จัก เราได้จัดหมวดหมู่เป็นหัวข้อยอดนิยม

ความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

เหตุใดถึงเป็นเรื่องสำคัญหากฉันเข้ารับหรือไม่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19

เป็นสิ่งที่คุณเลือกเองอย่างแน่นอนที่จะได้รับวัคซีนโควิด-19 ทว่า เราต้องการให้ผู้คนได้รับการฉีดวัคซีนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อหยุดยั้งโรคระบาดนี้ การแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 นั้นจะเกิดยากขึ้น เมื่อผู้คนจำนวนมากในชุมชนมีภูมิคุ้มกัน – ผ่านการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อครั้งล่าสุด ยิ่งอัตราการฉีดวัคซีนของเรานั้นสูง อัตราการติดเชื้อของเราก็จะต่ำลง

ผู้คนที่ไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนยังสามารถมีโอกาสติดไวรัสและแพร่สู่คนอื่นๆ ได้ ผู้คนบางกลุ่มไม่สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ และทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อโควิด-19 มากเป็นพิเศษ หากคุณไม่ได้รับการฉีดวัคซีน คุณมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้นที่จะต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจากเชื้อกลายพันธุ์ของโควิด-19 (เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น) การเข้ารับการฉีดวัคซีนไม่เพียงแต่ปกป้องคุณจากโรคเท่านั้น แต่รวมถึงครอบครัว เพื่อนบ้าน และชุมชนของคุณ

ทำไมฉันควรเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 หากผู้คนส่วนใหญ่ยังมีชีวิตรอด

ผู้คนจำนวนมากที่ได้รับเชื้อโควิด-19 มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไวรัสเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้อย่างยิ่ง และเราทราบดีว่าสายพันธุ์ของโควิด-19 บางสายพันธุ์มีแนวโน้มที่จะทำให้คุณป่วยได้จริงๆ บางคนอาจป่วยหนักหรือเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ แม้แต่คนหนุ่มสาวที่ไม่มีภาวะสุขภาพเรื้อรัง ผู้คนอื่นๆ ที่รู้จักกันในชื่อ “อาการโควิดระยะยาว” อาจมีอาการนานหลายเดือนและส่งผลต่อคุณภาพชีวิต เรายังไม่ทราบผลกระทบระยะยาวทั้งหมดของโควิด-19 เนื่องจากเป็นไวรัสที่อุบัติใหม่ การเข้ารับการฉีดวัคซีนคือการป้องกันที่ดีที่สุดต่อไวรัส

วัคซีนมีความปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพหรือไม่

ใช่ วัคซีนโควิด-19 มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นักวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบวัคซีนกับผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกหลายหมื่นคน วัคซีนดังกล่าวตรงตามมาตรฐานของ U.S. Food and Drug Administration's (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา, FDA) เพื่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และคุณภาพการผลิตที่จำเป็นในการขออนุญาตใช้ในกรณีฉุกเฉิน วัคซีนทั้งหมดพบว่าสามารถป้องกันผู้คนจากการเจ็บป่วยจากโควิด-19 ได้ดีมาก ตั้งแต่นั้นมา วัคซีนเหล่านี้ได้ช่วยรักษาชีวิตคนหลายล้านคน

รับชมวิดีโอเหล่านี้ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำวัคซีนโควิด-19:

 

วัคซีนปลอดภัยสำหรับบุตรหลานหรือไม่

ใช่ วัคซีน Pfizer ได้รับการทดสอบกับเยาวชนหลายพันคนและแสดงให้เห็นว่าปลอดภัย อีกทั้งมีประสิทธิภาพมาก – ไม่มีอาสาสมัครเยาวชนคนใดที่ได้รับวัคซีนติดเชื้อโควิด-19 Centers for Disease Control and Prevention (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค, CDC) แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่ผู้ที่มีอายุ 6 เดือน ปีขึ้นไป (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)

ฉันจะเชื่อได้อย่างไรว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย

Centers for Disease Control and Prevention (CDC, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค) ได้ขยายและเพิ่มความแข็งแกร่งในการตรวจสอบความปลอดภัยของวัคซีน เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีความปลอดภัย ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของวัคซีนจะสามารถติดตามตรวจสอบและตรวจจับปัญหาที่อาจไม่พบตอนทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทางคลินิก

ฉันจะติดเชื่อโควิด-19 จากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้หรือไม่

ไม่ คุณไม่สามารถติดเชื้อโควิด-19 จากวัคซีนได้ วัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่มีไวรัสที่ทำให้เกิดโควิด-19 ได้

ฉันจำเป็นต้องรับวัคซีนหรือไม่หากฉันมีเชื้อโควิด-19 แล้ว

จำเป็น คุณยังจำเป็นเข้ารับการฉีดวัคซีนหากคุณได้รับเชื้อโควิด-19 แล้ว ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องผิดปกติที่จะติดเชื้อโควิด-19 อีกครั้งใน 90 วันหลังจากที่คุณติดเชื้อแล้ว ซึ่งหมายความว่าคุณอาจได้รับการปกป้องจากโควิด-19 (เรียกว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติ) เป็นระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เราไม่รู้ว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะอยู่ได้นานแค่ไหน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุที่คุณยังคงควรเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)

การรับการฉีดวัคซีนและการมีภูมิต้านทานแตกต่างกันอย่างไร

การมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติจากการติดเชื้อให้การป้องกันจากการติดเชื้อซ้ำในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดีควรคำนึงถึงว่าการติดเชื้อครั้งแรกในหมู่ผู้ที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมีเสี่ยงสูงกว่าที่จะเจ็บป่วยร้ายแรง ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และเสียชีวิต ไม่ใช่ทุกคนที่ร่างกายสร้างสารภูมิต้านทานได้หลังการติดเชื้อ COVID-19 แม้แต่ผู้ที่มีภูมิต้านทานบางอย่างหลังการติดเชื้อ ก็ไม่มีทางบอกได้เลยว่าภูมิต้านทานนั้นแข็งแรงขนาดไหน จะอยู่นานเท่าไร หรือต้านทานสายพันธุ์ไหนได้บ้าง

ในเมื่อเราไม่สามารถยืนยันได้ว่าภูมิต้านทานตามธรรมชาติจะช่วยปกป้องเราจากการติดเชื้อซ้ำหรือการเจ็บป่วยร้ายแรงเพราะ COVID-19 การฉีดวัคซีนให้ครบถ้วนจึงยังเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดและเป็นวิธีการหลักในการป้องกันการติดเชื้อ การส่งต่อ และโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับ SARS-COV-2

อนามัยของระบบสืบพันธุ์

ฉันจะสามารถมีบุตรได้หรือไม่หากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19

ใช่ ความกังวลของคุณเกี่ยวกับอนามัยการสืบพันธุ์และวัคซีนเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ นี่คือสิ่งที่เราทราบ: ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงว่าวัคซีนทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากหรือภาวะมีบุตรยาก เมื่อวัคซีนเข้าสู่ร่างกายของคุณ มันจะทำงานร่วมกับระบบภูมิคุ้มกันของคุณเพื่อสร้างแอนติบอดีเพื่อต่อสู้กับไวรัสโคโรนา กระบวนการนี้ไม่รบกวนอวัยวะสืบพันธุ์ของคุณ

American College of Obstetricians and Gynecologists (วิทยาลัยสูตินรีแพทย์และสูตินรีแพทย์แห่งอเมริกา, ACOG) แนะนำการเข้ารับการวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับทุกคนที่อาจต้องการตั้งครรภ์ในอนาคต หรือกำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ผู้คนจำนวนมากที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ตั้งครรภ์หรือคลอดทารกที่แข็งแรง

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะตั้งครรภ์และให้นมบุตร โปรดดูข้อมูลอัปเดตในเว็บไซต์ One Vax, Two Lives

วัคซีนปลอดภัยสำหรับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือไม่

ใช่ คุณสามารถรับวัคซีนได้หากคุณตั้งครรภ์ และ American College of Obstetricians and Gynecologists (วิทยาลัยสูตินรีแพทย์และสูตินรีแพทย์แห่งอเมริกา, ACOG) (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น) แนะนำการเข้ารับการวัคซีนสำหรับผู้ตั้งครรภ์ ไม่มีหลักฐานว่าวัคซีนโควิด-19 ทำให้เกิดปัญหากับการตั้งครรภ์ พัฒนาการของทารก การคลอด หรือการเจริญพันธุ์

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ขณะตั้งครรภ์และให้นมบุตร โปรดดูข้อมูลอัปเดตในเว็บไซต์ One Vax, Two Lives

วัคซีนปลอดภัยสำหรับผู้ที่ให้นมลูกหรือไม่

ใช่ คุณสามารถรับวัคซีนได้หากคุณให้นมลูก คุณไม่จำเป็นต้องหยุดให้นมลูกหากคุณต้องการเข้ารับการฉีดวัคซีน อันที่จริง รายงานเบื้องต้นแนะนำว่าวัคซีนอาจช่วยให้ร่างกายของคุณส่งผ่านแอนติบอดีไปยังลูกน้อยของคุณผ่านทางน้ำนมแม่จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม แต่ถ้าสิ่งนี้ได้รับการยืนยัน จะช่วยปกป้องลูกน้อยของคุณจากโควิด-19 ได้

สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 ช่วยปกป้องคุณแม่และลูกเกิดใหม่ (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น) ได้อย่างไร

วัคซีนจะเปลี่ยนรอบประจำเดือนของฉันหรือไม่

บางคนได้รายงานการเปลี่ยนแปลงของรอบประจำเดือนหลังจากได้รับวัคซีน แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลที่จะแนะนำว่าสิ่งเหล่านี้เป็นผลระยะยาว รอบประจำเดือนสามารถเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น ความเครียด

ส่วนผสม

ส่วนผสมในวัคซีนประกอบด้วยอะไรบ้าง

คุณอาจเห็นข่าวลือต่างๆ และส่วนผสมที่ไม่จริงปรากฏอยู่ในรายการออนไลน์หรือในโซเชียลมีเดีย สิ่งเหล่านี้มักเป็นความเชื่อผิดๆ ส่วนผสมในวัคซีนโควิด-19 (เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น) เป็นส่วนผสมทั่วไปสำหรับวัคซีน วัคซีนประกอบด้วยสารออกฤทธิ์อย่างสารอาร์เอ็นเอ (mRNA) พร้อมกับไขมัน เกลือ และน้ำตาลเพื่อปกป้อง mRNA และช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้นในร่างกาย อีกทั้งยังปกป้องตัววัคซีนระหว่างการเก็บและการขนส่ง

วัคซีนป้องกัน COVID-19 Novavax เป็นวัคซีนจากส่วนหนึ่งของเชื้อที่มีสารแต่งเติมซึ่งรวมถึงไขมันและน้ำตาลที่ช่วยให้วัคซีนทำงานได้ดีขึ้นเมื่ออยู่ในร่างกาย วัคซีนนี้ไม่ได้ใช้ mRNA

โปรดดูที่รายการส่วนผสมทั้งหมดในเอกสารประกอบข้อมูลของ Pfizer (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น), Moderna (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น), Novavax (ฉบั,บภาษาอังกฤษเท่านั้น) และ Johnson & Johnson (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)

วัคซีนของ Johnson & Johnson มีส่วนผสมเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์หรือไม่

วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ Johnson & Johnson สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับวัคซีนอื่นๆ วัคซีนไม่ประกอบด้วยส่วนของทารกในครรภ์หรือเซลล์ของทารกในครรภ์ ส่วนประกอบอย่างหนึ่งของวัคซีนของ Johnson & Johnson ผลิตจากเซลล์ที่เพาะเลี้ยงในห้องแล็บ ซึ่งเป็นเซลล์ที่ได้มาจากการเลือกยุติการตั้งครรภ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 35 ปีที่แล้ว ตั้งแต่นั้นมา เซลล์ของวัคซีนเหล่านี้ได้รับการดูแลในห้องแล็บ ไม่ใช้แหล่งเซลล์ของทารกในครรภ์เป็นส่วนผสมเพิ่มเติมเพื่อผลิตวัคซีนเหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลใหม่สำหรับผู้คน อย่างไรก็ตาม วัคซีนอื่นๆ อีกหลายตัว รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส หัดเยอรมัน และไวรัสตับอักเสบเอ ก็ผลิตด้วยวิธีเดียวกัน

วัคซีนมีไมโครชิปหรือไม่

ไม่มี วัคซีนไม่มีไมโครชิปหรืออุปกรณ์ติดตามใดๆ วัคซีนประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ซึ่งช่วยให้ร่างกายสร้างแอนติบอดี้เพื่อต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 พร้อมกับไขมัน เกลือ และน้ำตาล

วัคซีนป้องกันโควิด-19 จะทำให้ฉันเกิดสนามแม่เหล็กได้หรือไม่

ไม่ คุณจะไม่เกิดสนามแม่เหล็กหากคุณได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 วัคซีนไม่มีส่วนผสมที่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และปราศจากโลหะ โปรดดูที่รายการส่วนผสมทั้งหมดในเอกสารประกอบข้อมูลของPfizer (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น), Moderna (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น), และ Johnson & Johnson (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น) ข้อมูลเพิ่มเติม

ข้อกังวลด้านสุขภาพอื่นๆ

ฉันจะเกิดลิ่มเลือดอุดตันหลังจากการฉีดวัคซีนหรือไม่

ความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตันอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก จำนวนคนที่เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีน Johnson & Johnson มีโอกาสเกิดขึ้นต่ำมากเมื่อเทียบกับจำนวนคนหลายล้านคนซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนแล้วและไม่ได้เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน อาจเปรียบได้ว่า ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นยังต่ำกว่าการคุมกำเนิดซึ่งผู้หญิงนับหลายล้านคนยังคงใช้วิธีนี้อยู่ทุกวัน ค้นหาคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการคุมกำเนิดและวัคซีนป้องกันโควิด-19 จาก Johnson & Johnson และอื่นๆ (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)

คุณสามารถพูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับความเสี่ยงของคุณได้ รายงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับลิ่มเลือดอุดตันหลังจากฉีดวัคซีน Johnson & Johnson จะเกิดขึ้นในผู้หญิงซึ่งมีอายุน้อยกว่า 50 ปี หากคุณเป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18 ถึง 50 ปี คุณควรระวังไว้ว่าคุณอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ ข้อกังวลเกี่ยวกับอาการลิ่มเลือดอุดตันเกี่ยวข้องกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จาก Johnson & Johnson ไม่ใช่มาจาก Pfizer หรือจาก Modernaหากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนจาก Johnson & Johnson สามารถขอรับการฉีดวัคซีน Moderna หรือ Pfizer กับผู้ให้บริการของคุณแทนได้้

ฉันควรกังวลเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหรือไม่

หลายกรณีที่เกิดจากอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ) และเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (การอักเสบของเยื่อบุหัวใจ) หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 นั้นพบได้ยากมาก มีเพียงกลุ่มคนจำนวนน้อยที่อาจประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าวหลังได้รับการฉีดวัคซีน สำหรับผู้คนซึ่งประสบปัญหาดังกล่าว กรณีส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น อาการส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง และผู้ป่วยมักจะหายได้เองหรือได้รับการรักษาเพียงเล็กน้อย โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบจะพบได้บ่อยมากขึ้นหากคุณป่วยด้วยโควิด-19

ณ วันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ.2021 จากรายงานที่น้อยกว่า 1,500 ฉบับต่อ Vaccine Adverse Event Reporting System (ระบบรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีน, VAERS) มีกรณีที่ได้รับการยืนยันเพียง 699 รายในสหรัฐอเมริกา (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น) ในขณะที่ผู้คนมากกว่า 177 ล้านคนได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส

คุณสามารถพูดคุยกับหมอได้เกี่ยวกับภาวะความเสี่ยงของคุณ หากคุณมีอาการใดๆ หลังจากการฉีดวัคซีน คุณสามารถรายงานอาการดังกล่าวต่อ VAERS (เฉพาะภาษาอังกฤษ)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)

ฉันสามารถรับวัคซีนได้หรือไม่ถ้าฉันมีภาวะสุขภาพที่แฝงอยู่

ผู้ป่วยโรคประจำตัวหรืออยู่ภายใต้เงื่อนไขทางการแพทย์ส่วนใหญ่สามารถรับวัคซีนโควิด-19 ได้ แจ้งให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพทราบเกี่ยวกับอาการแพ้และภาวะสุขภาพทั้งหมดของคุณ ที่จริงแล้ว โรคประจำตัวหลายอย่างทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจากโควิด-19 ดังนั้นวัคซีนจึงมีความสำคัญมากกว่าในการป้องกันไม่ให้คุณป่วย

คนเฉพาะกลุ่มเหล่านี้อาจได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19:

  • ผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • ผู้ที่มีภาวะภูมิต้านตนเอง
  • ผู้ที่เคยมี Guillain-Barré syndrome (อาการกิลแลง-บาร์เร, GBS) มาก่อน
  • ผู้ที่เคยมีอาการดังกล่าวมาก่อนจะมีอาการโรคปากเบี้ยว

หากคุณมีประวัติอาการแพ้อย่างรุนแรงหรือคิดว่าคุณอาจมีอาการแพ้อย่างรุนแรงต่อส่วนผสมของวัคซีน โปรดอ่านเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาการแพ้รุนแรงหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)พบได้ยากและเกิดขึ้นในประมาณ 2 ถึง 5 คนต่อหนึ่งล้านคนที่ได้รับวัคซีนในสหรัฐอเมริกา

ข้อมูลนี้ (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น) มุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชนในกลุ่มข้างต้นให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจรับวัคซีนโควิด-19

วัคซีนจะเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอของฉันหรือไม่

ไม่ วัคซีนโควิด-19 ไม่เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขดีเอ็นเอในตัวคุณได้ วัคซีนจะส่งคำสั่งไปยังเซลล์ต่างๆ ในร่างกายเราเพื่อเริ่มสร้างเกราะป้องกันไวรัสที่ทำให้เกิดโควิด-19 วัคซีนไม่เข้าสู่ส่วนของเซลล์ที่ดีเอ็นเอของเราถูกเก็บไว้ วัคซีนทำงานร่วมกับการป้องกันตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแทน เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยีสารอาร์เอ็นเอ และเวกเตอร์ไวรัส (ฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น)

วัคซีนทำให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาวหรือไม่

เรามีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากมายเกี่ยวกับวัคซีนสำหรับโควิด-19 และโรคอื่นๆ จากข้อมูลเหล่านั้น ผู้เชี่ยวชาญมั่นใจว่าวัคซีนเหล่านี้มีความปลอดภัยมาก ปฏิกิริยาตอบสนองต่อโควิด-19 เกือบทั้งหมดนั้นไม่รุนแรง เช่น เมื่อยล้าหรือเจ็บแขน และเกิดขึ้นเพียงสองสามวัน ปฏิกิริยาที่ร้ายแรงหรือระยะยาวนั้นพบได้ยากมาก

ผลข้างเคียงระยะยาวมักเกิดขึ้นภายในแปดสัปดาห์หลังการฉีดวัคซีน นี่คือเหตุผลที่ผู้ผลิตวัคซีนต้องรออย่างน้อยแปดสัปดาห์หลังจากการทดลองทางคลินิกก่อนที่จะสามารถยื่นขอใบอนุญาตใช้ฉุกเฉินจาก Food and Drug Administration (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, FDA) จากสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญยังเฝ้าติดตามการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัย FDA ตรวจสอบรายงานใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยาที่ร้ายแรง